Pimalai Resort and Spa

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด และ บริษัท พิมาลัย โฮลดิ้ง จำกัด

บริษัท พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด และ บริษัท พิมาลัย โฮลดิ้ง จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว และให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือ ทำธุรกรรมกับบริษัท จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนลุคคลอย่างชัดเจน และเหมาะสม
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ตลอดเวลา โดยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกประกาศไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในการประกาศความเป็นส่วนตัวนี้

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถือแก่กรรม และข้อมูลนิรนามที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้

“คุกกี้ (Cookies)” หมายถึง ข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลที่มาจากการดาวน์โหลดที่อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเข้าใช้งาน และข้อมูลดังกล่าวอาจถูกบันทึกลงในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องมือสื่อสารที่ท่านเข้าใช้งานผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้ในขณะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท

“พันธมิตรของบริษัท” หมายถึง นิติบุคคลที่มีการข้อตกลงร่วมกันในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ขอมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่าน

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทได้รับข้อมูลทั้งทางตรง และทางอ้อม เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร การสอบถาม หน่วยงานราชการ พันธมิตรของบริษัท และ ผู้ให้บริการอื่น เช่น Facebook Instagram Line Twitter LinkedIn เป็นต้น

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น
  • บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ ให้ความยินยอม ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ กฎหมายอื่นกำหนดไว้

 

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม หรือ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท หรือ เพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บ และใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเข้าของข้อมูล หรือ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
  • บริษัทจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม เว้นแต่
    • ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    • เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

การใช้งานคุกกี้

บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และความพึงพอใจของท่าน โดยคุกกี้จะทำให้บริษัทเข้าใจลักษณะการใช้งานเว็บไซต์เพื่อให้ท่านเข้าถึงสิ่งที่ท่านประสงค์ได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของการตลาด

บริษัทมีการใช้โปรแกรมคุกกี้ประเภทต่างๆ แบ่งตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทได้ทุกส่วน
  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถวัดผล การทำงาน โดยประมวลจำนวนหน้าที่ท่านเข้าเยี่ยมชม ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะของ กลุ่มผู้เยี่ยมชมนั้นๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และจะนำผลลัพธ์ไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของ ผู้เยี่ยมชมได้ดียิ่งขึ้น
  • คุกกี้เพื่อการทำงาน คุกกี้ประเภทนี้ใช้จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านเลือกในขณะใช้งานในเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง
  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและความสนใจของท่าน ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสม
  • การลบคุกกี้ ท่านสามารถลบคุ้กกี้ได้โดยศึกษาวิธีการที่ระบุตามแต่ละเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้งาน

 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้
  • บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัทในเครือ หรือ บุคคลอื่นทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัท และการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้
  • บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย

 

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถยื่นคำร้องการใช้สิทธิต่างๆตามกฎหมาย ได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ “ติดต่อเรา” บริษัทจะดำเนินการตามคำร้องของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ และความซับซ้อนของคำร้อง

  • ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม โดยบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุด
  • ท่านมีสิทธิขอทราบ และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ ยกเว้นในกรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ คำสั่งศาล หรือ การเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูล ขอให้ส่ง หรือ โอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือ ขอรับข้อมูลที่บริษัทส่ง หรือ โอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
  • ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ หรือ เมื่อท่านเพิกถอดความยินยอมที่เคยให้ไว้ หรือ ใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลทั้งการตลาดแบบตรง และอื่นๆ หรือ มีการประมวลผลอันมิชอบด้วยกฎหมาย และกรณีอื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด
  • ท่านมีสิทธิห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลของท่าน และบริษัทจะหยุดประมวลผลข้อมูลดังกล่าวของท่าน อย่างไรก็ตามในกรณีที่แม้ว่าการปรมวลผลจะไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลนั้นไว้ยังคงจำเป็นเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ 1) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือ 2) ข้อมูลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง หรือ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า กรณีเช่นนี้บริษัทจะยังเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงเท่าที่จำเป็น
  • ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือ สถิติ เว้นแต่การดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่าการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐเมื่อพบว่าบริษัท ลูกจ้าง หรือ ผู้รับจ้างของบริษัทนั้นกระทำการฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตลาด

หากท่านมีความประสงค์จะปฏิเสธ หรือ ยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารทางการตลาดจากบริษัท ท่านสามารถดำเนินการแจ้งความประสงค์ที่ช่องทางตามที่กำหนดในข้อ “ติดต่อเรา” ทั้งนี้การปฏิเสธ หรือ ยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารทางการตลาดจะไม่กระทบต่อการให้บริการตามสัญญาแก่ท่าน

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย ระเบียบ ข้อกำหนด และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • บริษัทสนับสนุน และส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้ และตระหนักถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบาย และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
  • ในกรณีที่บริษัทได้ให้บุคคลภายนอกทำการพัฒนา และดูแลรักษาระบบ การจัดสรรทรัพยากร หรือ บริการ หรือ ให้บริการอื่นใดแก่บริษัท บริษัทอาจกำหนดให้มีข้อตกลงรักษาความลับ และ/หรือ ข้อตกลงให้ประมวลผลข้อมูลอย่างสอดคล้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • บริษัทได้จัดทำการบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ แม้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด แต่การรับส่งข้อมูลทางอินเทอต์เน็ตนั้นยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย บริษัทจึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เปิดเผยผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตได้

 

ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างน้อยสิบปี หรือ จัดเก็บตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท และข้อกำหนดของกฎหมาย

 

การติดต่อบริษัท

ท่านสามารถขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ กรณีมีข้อสงสัย หรือ ข้อร้องเรียนใดๆ สามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางต่อไปนี้
บริษัท พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์​ สปา จำกัด
สำนักงาน กรุงเทพ เลขที่ 727 ถนน ศรีนครินทร์ สวนหลวง กรุงเทพ
โทร 02-320-5500 ต่อ 401
อีเมล์ privacy@pimalai.com